โครงการส่งเสริมธุรกิจไทยใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย ร่วมกับ มูลนิธิทีเอชนิค กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสองสมาคมดิจิทัล ให้สิทธิ์สมาชิกวิสามัญ สำหรับผู้ลงทะเบียนเว็บไซต์กับ มูลนิธิทีเอชนิค ฟรี 1 ปี

สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย ร่วมกับ มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (ทีเอชนิค), กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์, สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย และสมาคมการค้าดิจิทัลไทย จัดทำ “โครงการส่งเสริมธุรกิจไทยใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน” สนับสนุนให้นิติบุคคลจดชื่อโดเมน .th ภายใต้ หมวด .co.th หรือ .online.th หรือ .shop.th ฟรี 1 ปี พร้อมสร้างเว็บไซต์เริ่มต้นให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวน 50,000 ราย เริ่มเปิดลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.domain.online.th ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. – 31 ธ.ค. 64

1.เพ็ญศรี อรุณวัฒนามงคล มูลนิธิทีเอชนิค

โดยนางเพ็ญศรี อรุณวัฒนามงคล ผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย กล่าวถึง ความเป็นมาของโครงการว่า ปัจจุบันเครื่องมือและแพลตฟอร์มดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำธุรกิจ  ดังนั้นในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบการจดทะเบียนโดเมนนามสุกล .th มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย จึงร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และสมาคมด้านดิจิทัล  3 สมาคม ได้แก่ สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย, สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย และสมาคมการค้าดิจิทัลไทย ตั้งขึ้นเป็น 5 ภาคี จัดทำโครงการส่งเสริมธุรกิจไทยใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน  เพื่อส่งเสริมให้ ผู้ประกอบการไทยที่ยังไม่มีชื่อโดเมนและเว็บไซต์ของธุรกิจตนเอง  ได้มีทั้งชื่อโดเมนและเว็บไซต์ไว้ใช้ในการทำธุรกิจ และเริ่มต้นเข้าสู่โลกธุรกิจออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว หรือแม้แต่กิจการที่มีเว็บไซต์และ ชื่อโดเมนอื่นที่ไม่ใช่โดเมน .th จะได้มีชื่อโดเมน .th สำหรับใช้ในการสื่อสาร ทางธุรกิจต่อไป 

“ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะสามารถจดชื่อโดเมน .th ภายใต้หมวด .co.th หรือ .online.th หรือ .shop.th ได้ 1 ปีโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียน พร้อมได้รับเว็บไซต์เริ่มต้นธุรกิจด้วย” นางเพ็ญศรีกล่าว

2. วโรรจ โรจนะ สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย

ทางด้าน นายวโรรส โรจนะ นายกสมาคมผู้ดูแลเว็บไทยกล่าวถึงความสำคัญของการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ชผ่านเว็บไซต์ว่า เว็บไซต์เป็นช่องทางที่สำคัญในการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซเพราะเป็นหน้าร้านดิจิทัลของธุรกิจที่ผู้ประกอบการสามารถกำหนดข้อมูลให้ลูกค้าสามารถเข้าเยี่ยมชมได้โดยไม่ขึ้นกับเงื่อนไขขอแพลตฟอร์มดิจิทัล ผู้ประกอบการที่มีเว็บไซต์ของตนเองจะได้เปรียบในการทำธุรกิจ สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย ยินดีร่วมสนับสนุนโครงการฯ โดยให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้เป็นสมาชิกวิสามัญของสมาคมเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งสมาชิกสมาคมจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการทำเว็บไซต์และสามารถสอบถามเกี่ยวกับการพัฒนา เว็บไซต์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้”

3. ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย

สำหรับการสนับสนุนการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ชผ่านเว็บไซต์นั้น นายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย กล่าวว่า “แม้ว่าในปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่จะค้าขาย ผ่านแพลตฟอร์มของโซเชียลมีเดียกับอีมาร์เก็ตเพลส แต่เว็บไซต์ยังคงมีความสำคัญ เมื่อธุรกิจต้องการความน่าเชื่อถือจากผู้ซื้อและต้องการที่จะเติบโตในระยะยาว สมาคมฯ เห็นชอบที่จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการได้เป็นสมาชิกวิสามัญของสมาคมฯ เป็นเวลา 1 ปี และสมาคมฯ ยินดีให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซแก่ผู้ประกอบการด้วย”

4. ณัฐพร วุ่นกลิ่นหอม สมาคมการค้าดิจิทัลไทย

ในส่วนของ สมาคมการค้าดิจิทัลไทย นายณัฐพร วุ่นกลิ่นหอม  นายกสมาคม กล่าวว่า “โครงการนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับธุรกิจที่ต้องการเติบโตโดยใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือ ซึ่งสมาคมฯ ยินดีสนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมโครงการนี้เป็นสมาชิกประเภทวิสามัญ 1 ปี พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ การใช้เครื่องมือดิจิทัลในการทำธุรกิจ”

5.อุดมธิปก ไพรเกษตร ผู้ประสานงานโครงการ

ดร.อุดมธิปก ไพรเกษตร ผู้ประสานงานโครงการ กล่าวว่า “โครงการนี้จะช่วยให้ ผู้ประกอบการไทยลดต้นทุนในการเข้าสู่การค้าดิจิทัล ในการดำเนินงานระยะแรก โครงการสามารถรับนิติบุคคลที่เข้าร่วมโครงการได้ 50,000 รายเท่านั้น ดังนั้น นิติบุคคลและผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการก่อนจะได้รับสิทธิ์จดชื่อโดเมนและได้รับเว็บไซต์ก่อนตามลำดับ”

‘โครงการส่งเสริมธุรกิจไทยใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน’ เริ่มเปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.domain.online.th  ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 หรือจนกว่าจะครบจำนวน 50,000 ราย